วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

การเลี้ยงน้องหมาสักตัวคือการรับผิดชอบอีกหนึ่งชีวิต ซึ่งเป็นชีวิตเล็กๆ ที่เราต้องดูแลเขาในฐานะอีกหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว การเลือกน้องหมาจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เลี้ยงมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์การเลี้ยงมาก่อน ควรเลือกดูสายพันธุ์น้องหมาที่มีพฤติกรรมไม่ก้าวร้าว ว่าง่าย อารมณ์ดี  ที่สำคัญเชื่อฟังเจ้าของค่ะ
 
     บทความนี้จึงได้นำข้อมูลที่สัตวแพทย์ในอเมริกาต่างลงความเห็นจัดอันดับน้องหมาที่เหมาะสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่มาให้รู้กัน ... ว่าแต่จะมีสายพันธุ์ใดบ้างกันดูกันค่ะ 
 


 

อันดับ 10 ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     ไม่น่าแปลกใจที่สายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนที่มีน้องหมาติดอันดับน่ารักมากที่สุดอย่าง Boo จะติดเป็น 1 ใน 10 ก็เพราะพวกเขาเป็นน้องหมาที่ฉลาด หลักแหลม ติดเจ้าของ ช่างประจบเอาใจ เชื่อฟังคำสั่ง ฝึกได้ง่าย ร่าเริงแจ่มใส และ ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อยู่ในที่แคบได้ พกพาไปที่ต่างๆ ก็ได้ไม่มีปัญหา แต่อาจจะปากเปราะ เห่าเก่งขี้ระแวงมากไปสักหน่อย เพราะด้วยความเป็นน้องหมาที่มีความภาคภูมิใจในตัวเองสูงจึงค่อนข้างลืมตัวว่าตัวเล็ก จึงเห่า ขู่ น้องหมาตัวใหญ่กว่า อย่างกล้าหาญไม่เกรงกลัว พาลให้ถูกไล่กัด หรือ ถูกทำร้ายได้ค่ะ

     เรื่องการดูแล ก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแปรงขนเป็นประจำทุกวัน เพื่อให้ขนไม่ติดสังกะตาง และผลัดขนเก่า อาบน้ำ 2 สัปดาห์ครั้งก็เพียงพอแล้วค่ะ แต่ถ้าตัดให้ขนสั้นก็จะยิ่งดูแลง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจจะมีโรคประจำสายพันธุ์ เช่นโรคหัวใจ โรคเกี่ยวกับข้อกระดูกต่างๆ และดวงตา จึงควรพาไปตรวจร่างกายเป็นประจำ หรือถ้ามีอาการใดผิดปกติควรพาไปพบแพทย์โดยด่วนค่ะ  
 

 


 

อันดับ 9 ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     น้องหมายอร์คเชียร์ หนึ่งในสายพันธุ์ที่ขึ้นแท่นเป็นน้องหมาตัวเล็กที่สุดในโลกอยู่หลายสมัย พวกเขามีนิสัยขี้เล่น ฉลาด ซุกซน เชื่อมั่นในตัวเองสูง รักเจ้าของที่เหมาะกับผู้เลี้ยงน้องหมามือใหม่ ที่ชอบน้องหมาเชื่อง ดูแลง่าย มีพื้นที่ในการเลี้ยงน้อย อยู่นิ่งๆ ในกระเป๋าได้นาน  พาไปไหนมาไหนสะดวก แล้วก็คลายเหงาได้อีกด้วย พวกเขาจะอยู่คลอเคลียกันเจ้าของไม่ห่าง ใครชอบให้เอาใจ เลี้ยงยอร์คเชียร์ไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ แต่พวกเขาเป็นน้องหมาปากเปราะ ชอบเห่าเรียกเจ้าของให้มาสนใจ พวกเขาจึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกวินัยอย่างเข้มงวดค่ะ 
 
     น้องหมายอร์คเชียร์มีขนยาวแต่ชั้นเดียวจึงไม่ค่อยผลัดขน อาบน้ำ2 ครั้งต่อเดือน หรือ ถ้าไม่ได้ออกไปไหนก็สามารถอาบได้เดือนละครั้งค่ะ เน้นที่การแปรงขนเป็นประจำทุกวันไม่ให้เป็นสังกะตัง ผูดจุกติดโบว์น่ารักๆ เพื่อไม่ให้ขนแทงตาก็เรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ยุ่งยากเลย ส่วนเรื่องสุขภาพอาจจะต้องดูแลเรื่องข้อกระดูกขา ไม่ควรให้เดิน หรือ วิ่งเล่นบนพื้นลื่นๆ และก็ระวังเรื่องโรคหัวใจ เป็นพิเศษค่ะ
 
    

 

อันดับ 8 มอลทีส

 
 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     น้องหมาตัวเล็กขนยาวขาวผ่องเป็นแพรไหมพันธุ์นี้ มีความร่าเริงสดใส ดูเหมือนน้องหมาเด็กอยู่ตลอดเวลา เหมือนลูกหมาตัวน้อยๆ ไม่มีเปลี่ยนแปลงแม้จะย่างเข้าสู่วัยชรา มอลทีสมีเป็นน้องหมาที่เชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี อยู่นิ่งได้นาน อ่อนโยน เป็นมิตรทั้งกับเด็กและคนแปลกหน้า ควบคุมง่าย พาไปไหนมาไหนสะดวก  แถมขี้เล่น ช่างประจบเอาใจ ติดเจ้าของอีกต่างหาก จะไม่ให้ตกหลุมรักได้อย่างไร >///<
 
     ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรนัก เนื่องจากเป็นน้องหมาขนยาวตรงสลวย การแปรงขนเป็นประจำทุกวันไม่ให้เป็นสังกะตาง อาบน้ำสองสัปดาห์ครั้งก็เพียงพอค่ะ แต่เนื่องจากพวกเขามีผิวหนังที่อ่อนบาง เป็นผื่นแพ้ง่าย จำเป็นต้องเลือกแชมพูที่ไม่ระคายเคืองต่อผิวหนัง และ เป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้งค่ะ นอกจากนี้ ควรระวังโรคเกี่ยวกับฟัน และ ปัญหาเรื่องระบบการย่อยอาหารให้มากเป็นพิเศษ  ผู้เลี้ยงควรศึกษาวิธีการดูแลพวกเขาอย่างถูกวิธี ให้กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ไม่ให้อยู่ในที่เปียกชื้น และ พาไปตรวจสุขภาพเป็นประจำค่ะ
 


 

อันดับ 7  ชิสุ 

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     อีกหนึ่งสายพันธุ์ยอดฮิต  เลี้ยงง่าย ขวัญใจผู้สูงอายุต้องยกให้ ชิสุ เลยค่ะ ด้วยนิสัยร่าเริงสดใส ชอบอยู่นิ่งๆ บนตักหรืออยู่ใกล้ๆ เจ้าของ ขี้ประจบ ไม่ค่อยซุกซนหนีหายไปไหน อยู่ได้ในพื้นที่จำกัด จงรักภักดี ไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าสักเท่าไหร่ สามารถเห่าเตือนภัยเฝ้าบ้านได้ ที่สำคัญสุขภาพแข็งแรง อายุยืน หากได้รับการดูแลป้องกันโรคเกี่ยวกับดวงตาก็ไม่ค่อยพบปัญหาอะไรให้หนักใจเลยล่ะค่ะ 

     การทำความสะอาดก็ไม่ยาก เน้นที่การแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำอย่างมาก 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง ส่วนเรื่องระเบียบวินัย พวกเขาไม่ค่อยมีปัญหาสร้างความเดือดร้อน หรือ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเกินควบคุม อาจจะหวงตัวบ้าง ไม่ชอบให้จู้จี้จุกจิก แต่ถ้าได้รับการฝึกอย่างดี พาไปออกสังคมบ่อยๆ ก็สามารถเป็นได้ถึงน้องหมานักบำบัดเลยล่ะค่ะ น่าเลี้ยงมากๆ จึงไม่น่าแปลกใจว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุดฮิตตลอดกาล
 
 

 


 

อันดับ 6  บอสตัน เทอร์เรีย 

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     บอสตัน เทอร์เรียเคยเป็นน้องหมาที่นิยมเลี้ยงมาก่อนในเมืองไทย แต่ก็ถูกน้องหมารุ่นน้องอย่างเฟรนช์ บูลด็อกที่ดูเผินๆ ละม้ายคล้ายกัน มาแซงความนิยมไปในช่วงปี สองปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยนิสัยและการเลี้ยงดูของบอสตัน เทอร์เรียค่อนข้างเลี้ยงดูง่ายกว่า ด้วยสรีระที่ปราดเปรียว ไม่เทอะทะ หน้าดูหักทู้ แต่ไม่สั้นจนยากต่อการดูแลเรื่องการกินอาหาร การดื่มน้ำ และระบบทางเดินหายใจ พวกเขาเป็นน้องหมาที่นิยมเลี้ยงในสหรัฐอเมริกา มีขนาดกระทัดรัด ไม่เล็กจนเกินไป มีความแข็งแรง สุขภาพดี ฉลาด ร่าเริง รักครอบครัว เชื่อฟังคำสั่ง คล่องแคล่ว ชอบอยู่เงียบๆ ไม่วุ่นวาย ไม่ไฮเปอร์ ไม่ซุกซน เฝ้าบ้านได้อย่างดีค่ะ  
 
     สำหรับการดูแลทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยากวุ่นวายอะไรนัก เพราะขนสั้นเกรียน อาบน้ำ สองสัปดาห์ครั้ง แปรงขนเพื่อผลัดขนเก่าเป็นประจำทุกวัน เน้นทำความสะอาดรอบใบหน้าที่ย่น ดวงตาและ ช่องหูค่ะ พวกเขามีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตา ควรสังเกตความผิดปกติ หากพบควรพาไปปรึกษาสัตวแพทย์ทันทีค่ะ
 
 

 
 

 

อันดับ 5 บิชอง ฟริเซ่

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     บิชอง ฟริเซ่น้องหมาขนฟูฟ่องขาวผ่องเป็นขนมสายไหม ค่อนข้างเป็นสายพันธุ์ใหม่สำหรับบ้านเรา ยังไม่พบแพร่หลาย หรือหลายคนอาจเคยพบเห็น แต่คิดว่าเป็นน้องหมาพุดเดิ้ล นั่นเพราะพวกเขามีบรรพบุรุษมาจากที่เดียวกัน เพียงแต่บิชอง ฟริเซ่จะมีแต่ขนสีขาวสะอาด หรือไม่ก็สีขาวอมครีมอ่อนๆ เท่านั้นไม่มีสีอื่นค่ะ พวกเขามีขนหยิก ฟูพอง ตัดเล็มเป็นลูกบอลกลมๆ น่ารักมากๆ ค่ะ ส่วนเรื่องนิสัย บริชอง ฟริเซ่ค่อนข้างจะเป็นน้องหมาที่จิตใจอ่อนโยน ใจดี  รักเจ้าของ รักคนแปลกหน้า รักไปเกือบทุกอย่าง อารมณ์ดี แฮปปี้ตลอดเวลา พลังงานสูงใช่ย่อย แต่ในทางกลับกัน ถ้าเขาเสียใจ เหงา รู้สึกถูกทอดทิ้งก็จะเจ็บปวดถึงขั้นซึมเศร้า ดังนั้น การให้ความรัก การเอาใจใส่ หากิจกรรมทำร่วมกับครอบครัวจึงเป็นสิ่งที่สำหรับสำหรับพวกเขาอย่างมากค่ะ   

     บิชอง ฟริเซ่เป็นน้องหมาผิวแพ้ง่าย ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว เป่าขนให้แห้งหลังจากอาบน้ำทุกครั้ง และแปรงขนเป็นประจำทุกวันจะได้ไม่เป็นสังกะตางค่ะ การออกกำลังกายก็จำเป็นเช่นเดียวกับน้องหมาทุกตัว ส่วนโรคประจำสายพันธุ์ที่ต้องระวังก็เช่น โรคเกี่ยวกับกระดูก ต้อกระจก หูติดเชื้อ แต่ถ้าดูแลอย่างดี ให้อาหารถูกหลักอนามัย ก็ไม่มีปัญหาอะไร อายุยืนอยู่เป็นเพื่อนยาวนานค่ะ ^^
 


 

อันดับ 4  คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล 


 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล มีลักษณะนิสัยและรูปร่างคล้ายกับค็อกเกอร์ สเปเนียล (ซึ่งก็เหมาะกับมือใหม่เช่นกันค่ะ) พวกเขาเป็นน้องหมาหน้าตาน่ารัก ดูมีสง่าราศี ขนยาวหยักศกสวยงาม นิสัยอ่อนโยน อ่อนหวาน มีความรักให้กับเจ้าของ เด็กๆ และคนแปลกหน้า ไม่ก้าวร้าว  เงียบสงบ เรียบร้อย ไม่เรื่องมาก (อาจดื้อเงียบนิดหน่อย) พาไปไหนมาไหน ได้ไม่มีปัญหา ชอบอยู่เคียงกายเจ้าของ ช่างประจบเอาใจเหมาะกับเป็นน้องหมาบำบัดอีกด้วย 
 
     การดูแลเรื่องขน ช่องหูเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับน้องหมาขนยาว หูยาวอย่างคาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส สเปเนียล ควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำประมาณ 1 ครั้งต่อสัปดาห์  เป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง ตรวจเชคดูแลความสะอาดช่องหูและรอบดวงตาเป็นประจำ หากมีความผิดปกติควรพาไปหาสัตวแพทย์ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ค่ะ เนื่องจากพวกเขามีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตาและช่องหู จำเป็นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษค่ะ
 
 


 

อันดับ 3  ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์  

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     หลังจากที่มีแต่น้องหมาพันธ์เล็กติดโผ มาตลอด ก็มาถึงน้องหมาพันธุ์ใหญ่ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ ที่คนรักน้องหมาพันธุ์ใหญ่(ใจดี) คนพิการ และ หน่วยกู้ภัยนิยมเลี้ยง เพราะความเป็นมิตร เข้ากับเด็กๆ ได้ดี เชื่อฟังคำสั่ง ไม่แสดงอำนาจเหนือ บุกลุยได้ทุกสถานการณ์ ดูคล่องตัว รักและช่างประจบเจ้าของ เฝ้าบ้านก็ได้ ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ง่าย จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกเขายังคงเป็นน้องหมาพันธุ์ใหญ่ที่หลายครอบครัวทั่วโลกเลือกเลี้ยงตลอดมาหลายสิบปี ไม่มีตกเทรนด์
 
     ด้านสุขภาพ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เสี่ยงต่อโรคอ้วน โรคเกี่ยวกับข้อต่อต่างๆ รวมทั้งโรคกระดูกสะโพกเคลื่อน ควรควบคุม ดูแลเรื่องอาหารการกิน พาไปออกกำลังเป็นประจำทุกวัน ตรวจเชคสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ พวกเขารักการทำกิจกรรมร่วมกับครอบครัว การมีเวลาอยู่กับพวกเขา จะช่วยเพิ่มพูนความสุขให้ทั้งกายและใจค่ะ ส่วนการทำความสะอาดก็ไม่ยุ่งยาก คววรแปรงขนเป็นประจำทุกวันเพื่อผลัดขน อาบน้ำ เดือนละ 2 ครั้งกำลังดีค่ะ
 
(อ่านเพิ่มเติมสายพันธุ์ ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ คลิกเลย!)



 

อันดับ 2  พุดเดิ้ล   

 
 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     หากมีการจัดอันดับน้องหมาในด้านดี ไม่ว่าจะประเภทไหน สถานบันใด พุดเดิ้ลขอติดอันดับ กวาดเรียบแทบทุกสถาบันค่ะ ไม่ว่าจะน้องหมาที่ฉลาดที่สุด น้องหมาที่อายุยืนที่สุด น้องหมาที่เห่าเฝ้าบ้านได้ดีที่สุด น้องหมาที่เลี้ยงง่ายมากที่สุด น้องหมานิสัยดีมากที่สุด น้องหมาที่โรคน้อยที่สุด ... มีดีขนาดนี้ คุณสัตวแพทย์ทั้งหลายจะไม่เทคะแนน เทใจให้แก่พุดเดิ้ลได้อย่างไร ซึ่งข้อดีที่มากมายสาธยายไม่หมดของพุดเดิ้ลทำให้เกิดการนำน้องหมาสายพันธุ์นี้ไปผสมกับสายพันธุ์อื่นๆ เพื่อให้ได้สายพันธุ์ใหม่ที่มีสุขภาพยอดเยี่ยม นิสัยดีไม่มีที่ติ เช่น สายพันธุ์ พันธุ์โกลเดนดูเดิ้ล (Goldendoodle), พันธุ์ ค็อกกาพู (Cockapoo), พันธุ์ลาบราดูเดิ้ล (Labradoodle) เป็นต้นค่ะ (ถ้าอยากรู้ว่าเป็นพันธุ์ไหนผสมกับพุดเดิ้ล ท้ายบทความพริกมีเฉลยค่ะ)
 
     เรื่องสุขภาพของพุดเดิ้ล ไม่ค่อยมีเรื่องน่าห่วง อาจจะมีโรคเกี่ยวกับดวงตา และโรคเกี่ยวกับผิวหนังที่เป็นโรคประจำสายพันธุ์การพาไปตรวจสุขภาพ ออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยง และเตรียมตัวป้องกัน ดูแลอย่างถูกวิธีเท่านี้น้องพุดเดิ้ลก็อยู่กับเราได้ไปนานเกิน 20 ปีค่ะ
 
(อ่านเพิ่มเติมสายพันธุ์ พุดเดิ้ล และบทความ 8 เหตุผลที่ พุดเดิ้ล เป็นน้องหมาสุดฮิตตลอดกาล คลิกเลย!)
 



 

อันดับ 1  โกลเดน รีทรีฟเวอร์ 

 
 

Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     แต่น แตน แต้นนนนน!  อันดับ 1 คือ น้องหมาพันธุ์ใหญ่ ยิ้มเก่ง โลกสวยตลอดกาล โกลเดน รีทรีฟเวอร์ นั่นเอง สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้โกลเดน ครองใจเหล่าสัตวแพทย์ ก็เพราะ ความฉลาด นิสัยที่ว่านอนสอนง่าย อ่อนโยน เข้ากับเจ้าของได้ง่าย เป็นมิตร รักเด็ก อยู่กับคนสูงอายุก็ไม่มีปัญหา ร่าเริง แจ่มใส ประจบเอาใจครอบครัว สามารถเห่าเตือนภัยได้ แต่ไม่ก้าวร้าว ซื่อสัตย์ ฝึกง่าย เชื่อฟังคำสั่งได้เป็นอย่างดี โกลเดน รีทรีฟเวอร์เพอร์เฟ็คมากๆ สำหรับคนที่เริ่มเลี้ยงสุนัข และต้องการเปิดโลกทำความรู้จักมิตรภาพ การแบ่งปันความรักร่วมกับน้องหมาอย่างครบถ้วนสมบูรณ์  
 
     อย่างไรก็ตาม การดูแลเรื่องสุขภาพให้แก่โกลเดน รีทรีฟเวอร์ก็เป็นรื่องที่มองข้ามไม่ได้ พวกเขาผิวแพ้ง่าย ควรใช้แชมพูสูตรอ่อนโยน แปรงขนเป็นประจำทุกวัน อาบน้ำทุกสัปดาห์ หรือ ถ้าไม่สกปรกมาก เดือนละ 2 ครั้งก็ได้ค่ะ ควรพาไปออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน เพื่อป้องกันโรคที่เกี่ยวกับกระดูก  ข้อสะโพก เรื่องดวงตาก็ต้องคอยดูเป็นพิเศษเช่นกันค่ะ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ สามารถดูแลเรื่องสุขภาพกายให้แข็งแรงอยู่เสมอได้ โกลเดน รีทรีฟเวอร์จะกลายเป็นน้องหมาชั้นเยี่ยมสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่และมือเก่าได้อย่างแน่นอนค่ะ
 

 
 
Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
     นอกจากน้องหมา 10 สายพันธุ์ทื่พริกบอกเพื่อนๆ ไปแล้ว กลุ่มสัตวแพทย์ในสหรัฐอเมริกายังมีความคิดเห็นด้วยว่าน้องหมาที่มีการนำมาออกแบบน้องหมาผสมข้ามสายพันธุ์เพื่อให้ได้น้องหมาที่นิสัยดี สุขภาพแข็งแรง อย่าง พันธุ์โกลเดนดูเดิ้ล (Goldendoodle) ที่ผสมระหว่าง โกลเดน รีทรีฟเวอร์ กับพุดเดิ้ล, พันธุ์ ค็อกาพู (Cockapoo) ผสมระหว่างค็อกเกอร์ สเปเนียล กับ พุดเดิ้ล, พันธุ์ลาบราดูเดิ้ล (Labradoodle) ผสมระหว่างลาบราดอร์ กับพุดเดิ้ล, พันธุ์ ปั๊กเกิล (Puggle) ที่เกิดจากการผสมกันระหว่างปั๊ก กับ บีเกิล ก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เลี้ยงมือใหม่ เพราะทั้งเลี้ยงง่าย โรคประจำสายพันธุ์น้อยลง อายุยืนขึ้น แต่ก็อาจจะไม่ได้สวยงามหน้าตาดีอย่างสายพันธุ์แท้เท่านั้นเอง (ส่วนน้องหมาพันธุ์ผสม พันทาง พันธุ์ไทยอย่างบ้านเราก็เลี้ยงง่ายไม่ต่างกัน ใครนิยมของไทยอย่างพริก ก็หาเลี้ยงได้ค่ะ โรคไม่ค่อยมี สุขภาพดี กินอยู่ง่าย เฝ้าบ้านได้อีกด้วย ^^)
 


Dogilike.com :: 10 สายพันธุ์น้องหมาเหมาะสำหรับ “ผู้เลี้ยงมือใหม่”

 
      เป็นอย่างไรคะ โฉมหน้าน้องหมาที่เลี้ยงง่าย เหมาะกับผู้เลี้ยงมือใหม่ มีใครเลี้ยงพันธุ์ไหนกันบ้างก็สามารถแบ่งปันประสบการณ์การได้นะคะว่าเลี้ยงง่ายมากน้อยขนาดไหน หรือสร้างวีรกรรมอะไรกันบ้าง เพราะถึงน้องหมาเหล่านี้จะเลี้ยงง่าย แต่ก็ขึ้นอยู่กับนิสัยเฉพาะของแต่ละตัว การเลี้ยงดู สุขภาพร่างกาย โรคประจำตัว และสิ่งแวดล้อมที่พวกเขาอยู่ ใช่ว่าจะเลี้ยงแล้วแฮปปี้กันทุกคนที่เลี้ยง ดังนั้นการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยปะละเลยก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับน้องหมาทุกตัวค่ะ    
 
 
 
บทความโดย : http://www.dogilike.com/

 
ข้อมูลอ้างอิง :
http://www.vetstreet.com/our-pet-experts/veterinary-
professionals-vote-on-the-best-dogs-for-new-owners

 
ภาพประกอบ :
www.dailypuppy.com
www.thatcutesite.com
abcnews.go.com
www.hoobly.com
en.wikipedia.org
ibostonterrier.com
www.aplacetolovedogs.com 
www.bigdogbreeds101.com 
bittsandbytes.net 
www.topgoldenretrieversites.net
www.montanalabradoodles.com
ladyfi.wordpress.com
 
 
 
 

10อันดับหมาสุดฮิตของคนไทย

สายพันธุ์สุนัขในโลกนี้มีมากมายทั้งสุนัขพันธุ์พื้นเมือง สุนัขนำเข้าจากต่างประเทศ และสุนัขที่เกิดจากการผสมข้ามสายพันธุ์ ซึ่งหากตอนนี้คุณกำลังมองหาสุนัขสักตัวมาเลี้ยง แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสุนัขสายพันธุ์ใด หรืออยากรู้ว่า เพื่อนซี้แสนซื่อที่อยู่ข้างกายของคุณในตอนนี้จะเป็นสายพันธุ์สุนัขที่ฮิตในหมู่คนเลี้ยงสุนัขกันบ้างหรือเปล่า ก็ไปติดตาม 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทยกันเลยดีกว่า

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 1. ชิวาวา (Chihuahua)


           สุนัขตาโปนที่ถูกเรียกชื่อตามรัฐชิวาวา ซึ่งเป็นชื่อของรัฐแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของเม็กซิโก นอกจากจะเป็นสุนัขพันธุ์เล็กที่สุดในโลกแล้ว ด้วยลำตัวขนาดเล็กกะทัดรัด สะดวกแก่การพกพา บวกกับนิสัยขี้เล่น ขี้อ้อน จึงส่งผลให้ผู้คนส่วนใหญ่นิยมนำชิวาวามาเลี้ยงเป็นเพื่อนเล่น ดังที่เห็นได้จากการที่ชิวาวามักจะปรากฏตัวพร้อมกับเหล่าเซเลบริตี้คนดังอยู่บ่อย ๆ นั่นเอง

           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของชิวาวา

           รูปร่างลักษณะของชิวาวาที่ดีและสมบูรณ์แบบนั้น จะต้องมีหัวหรือกะโหลกศีรษะกลม หน้าสั้น ส่วนเรื่องลำตัวจะยาวหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละตัว ทั้งนี้ พวกมันจะมีความยาวของขาที่ได้สัดส่วนพอดี เมื่อมองจากลำตัวที่ตัดจากลำคอไปถึงหาง ดูแล้วจะเห็นเป็นทรงสี่เหลี่ยม ส่วนท่าทางการเดินจะเตะขาเหมือนม้า

           อุปนิสัยของชิวาวาที่นอกเหนือจากหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูแล้ว ยังค่อนข้างติดเจ้าของ ชอบประจบประแจง แถมบางตัวก็แอบหยิ่งนิด ๆ ถ้าไม่ใช่เจ้าของตัวเองจะไม่ค่อยให้แตะเนื้อต้องตัว และค่อนข้างปากเปราะ เห่าเสียงดังเหมือนสุนัขพันธุ์เล็กทั่วไป

           
 การเลี้ยงดูชิวาวา

           เห็นตัวเล็ก ๆ แบบนี้แต่ชิวาวามีอายุเฉลี่ย 13-15 ปี เลยทีเดียว นั่นเป็นเพราะร่างกายของชิวาวาแข็งแรงมาก และไม่ค่อยพบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ แต่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษในช่วงแรกคลอด ทั้งนี้เจ้าของควรดูแลลูกชิวาวาโดยให้กินนมแม่ไปก่อน หลังช่วง 1 เดือนครึ่ง ค่อยเปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ดที่แช่ทิ้งไว้ในน้ำหรือนมแพะเพื่อให้นิ่ม หากไม่สะดวกอาจจะเปลี่ยนมาเป็นอาหารเหลวสำหรับลูกสุนัข เพื่อฝึกให้สุนัขเลียหรือกินอาหารได้เอง

        อ่านบทความชิวาวา ได้ที่นี่ 


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

  10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย


 2. ปอมเมอเรเนียน (Pomerania)
           ก่อนที่เจ้าปอมเมอเรเนียนจะกลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงตัวเล็กแสนซนในบ้านเรา เจ้าปอมเมอเรเนียนเคยเป็นสุนัขที่ถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้งาน ว่ากันว่าต้นตระกูลของพวกมันเป็นสุนัขลากเลื่อนของประเทศไอซ์แลนด์และโปแลนด์ ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป แต่ในเวลาต่อมาก็ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปอมเมอเรเนียนมีขนาดตัวเล็ก ตาแป๋ว ตัวกลม ขนฟูอย่างที่เห็นในปัจจุบัน

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของปอมเมอเรเนียน

          ปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่มีขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเฉลี่ยอยู่ระหว่าง 1.7-2.5 กิโลกรัม ถ้าน้ำหนักน้อยหรือมากกว่านี้ จะถือว่าไม่ได้มาตรฐานสายพันธุ์ นอกจากนี้พวกมันยังมีขนชั้นในที่แน่นและนุ่ม ส่วนขนชั้นนอกจะหยาบกว่าชั้นในเล็กน้อย หางสวยงามเป็นพวง และตั้งอยู่ในตำแหน่งสูงขนานไปกับแผ่นหลัง

          โดยลักษณะนิสัยพื้นฐานของปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่ตื่นตัวเสมอ มีนิสัยอยากรู้อยากเห็น อวดดี สง่างาม และขณะก้าวย่างแสดงถึงความมีชีวิตชีวา ถือว่าเป็นพันธุ์ที่สมบูรณ์ทั้งรูปร่างและการเคลื่อนไหว ข้อเสียคือ อาจจะเห่าพร่ำเพรื่อไปสักนิด ทำให้เจ้าของที่ไม่ชินกับธรรมชาติของมัน อาจรู้สึกเครียดได้

          
 การเลี้ยงดูปอมเมอเรเนียน

          ปอมเมอเรเนียนต้องได้รับการแปรงขนทุกวันหรืออาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อที่ให้ขนที่หนาและสวยไม่พันกัน อาจต้องเล็มบ้างเป็นครั้งคราว และไม่ควรอาบน้ำให้ปอมเมอเรเนียนบ่อย เพราะจะทำให้ผิวหนังกับขนแห้งจนเกินไป นอกจากการดูแลขนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่มากที่สุดสำหรับสุนัขปอมเมอเรเนียน คือ การได้รับการดูแลสุขภาพปากและฟันเป็นอย่างดี เนื่องจากปอมเมอเรเนียนง่ายต่อการสูญเสียฟันอันเนื่องมาจากปัญหาฟันผุ หรือสุขภาพเหงือกไม่ดี จึงต้องหมั่นทำความสะอาดฟันให้เป็นประจำ และควรให้อาหารชนิดแห้งเพื่อลดปัญหาในช่องปาก

       อ่านบทความปอมเมอเรเนียน ได้ที่นี่ 


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 3. ชิสุ (Shih Tzu)

           ที่มาของชิสุก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะเป็นถึง 1 ใน 3 สุนัขชั้นสูงจากจักรพรรดิจีน โดยมีการคาดการณ์กันว่า ชิสุ มีต้นกำเนิดจากทิเบต เนื่องจากตามประวัติศาสตร์ของชาวทิเบตถือว่า สิงโต เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อทางศาสนา พระชาวทิเบต (Lama) จึงได้ผสมสุนัขพันธุ์เล็กขึ้นมาให้มีลักษณะคล้ายคลึงกับสิงโต ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า ขนแผงคอของ ชิสุ คล้ายกับแผงคอของสิงโต รวมไปถึงท่าทางการเดินหรือการเคลื่อนไหวที่สง่างาม อีกทั้งความหมายของคำว่า ชิสุ ยังแปลว่า สิงโต อีกด้วย

            ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของชิสุ

           ชิสุ เป็นสุนัขขนาดเล็กในกลุ่มทอย (Toy Group) มีน้ำหนักประมาณ 4.5-7.5 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ 25-27 เซนติเมตร ลักษณะของศีรษะต้องกลมโต สีกลางหน้าผากขาวเด่น ปากสั้น ความยาวของลำตัวมากกว่าความสูงเล็กน้อย กล้ามเนื้อบึกบึน กระชับ และเดินหน้าเชิด การย่างก้าวสง่าผ่าเผยทั้งนี้ ชิสุ เป็นสุนัขที่มีนิสัย กล้าหาญ ตื่นตัว ขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัว อีกทั้งยังเป็นสุนัขที่รักความสะอาด เป็นมิตรกับทุกคน ปรับตัวได้ดี ชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ กับเจ้าของ หากมีเวลาเจ้าของควรพามันไปวิ่งเล่นหรือออกกำลังกายบ้าง

           
 การเลี้ยงดูชิสุ

           ชิสุมีอายุค่อนข้างยืนยาว คือประมาณ 10-18 ปี ตามแต่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อาหาร และการเลี้ยงดู โรคที่มักเกิดขึ้นกับชิสุ คือ โรคตาแห้ง โรคหูน้ำหนวกหรือหูอักเสบ ดังนั้นเจ้าของควรหมั่นทำความสะอาดตาและหูอย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ส่วนโรคอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับชิสุ ได้แก่ โรคนิ่ว โรคไต และไส้เลื่อน นอกจากนี้ดูแลขนด้วยการแปรงขนเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับการนวดให้ต่อมน้ำมันที่โคนขนขับน้ำมันออกมาเคลือบเส้นขนได้มากขึ้น จะทำให้ผิวหนังและขนของมันมีสุขภาพสมบูรณ์ และช่วยขจัดรังแคกับสิ่งสกปรกอื่นออกจากผิวหนัง

       อ่านบทความชิสุ ได้ที่นี่ 


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 4. ยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ (Yorkshire Terrier)

          สุนัขที่เคยถูกเลี้ยงเอาไว้ใช้งาน ในการตามล่าและไล่จับหนูเหมือนกับแมวจากทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ มาตอนนี้ภาพเหล่านั้นกลับไม่มีให้เห็นอีกแล้ว เพราะยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์ หรือยอร์คกี้ ได้โด่งดังไปทั่วโลก ในฐานะสุนัขกลุ่มทอยที่เฉลียวฉลาด ขนสวย น่ารัก ที่คนทั่วโลกได้นำมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนข้างกายนั่นเอง

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของยอร์คเชียร์ เทอร์เรียร์

          สุนัขยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย จัดอยู่ในกลุ่มทอย ด็อก (Toy Dog) น้ำหนักเฉลี่ยของพวกเขาจะอยู่ที่ 1-5.4 กิโลกรัม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเจ้าของที่ชอบแต่งตัวให้กับสุนัข เพราะตลอดทั้งลำตัวของมันจะถูกปกคลุมด้วยขนยาว ที่มีลักษณะเรียบลื่น สลวยสวยงาม ทั้งนี้ สีขนของยอร์คกี้จะมีสีน้ำตาลและดำในช่วงแรกเกิด ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสีเงินออกน้ำเงินและสีทองเมื่อเริ่มโตขึ้น

          ยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่เหมาะสมกับคนทุกช่วงอายุ และเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดีสำหรับคนโสดหรือผู้ไม่มีบุตร หากบ้านใดมีเด็กเล็กอยู่ในครอบครัว ควรสอนเด็กให้รู้จักวิธีปฏิบัติตัวและวิธีเล่นกับยอร์คเชียร์ เพราะหากเด็กเล่นกับมันแรง ๆ ก็อาจทำให้มันบาดเจ็บได้ง่ายหรือบางทีอาจอันตรายถึงชีวิต เนื่องจากยอร์คเชียร์ เทอร์เรีย ตัวเล็กและบอบบาง และการที่พวกมันถูกเด็กแกล้งเป็นประจำ ก็อาจทำให้พวกมันมีนิสัยเปลี่ยนเป็นก้าวร้าว โมโหง่าย หรืออาจถึงขั้นกัดคน แต่หากพ่อแม่รู้จักสอนลูก ๆ ให้ปฏิบัติตัวต่อยอร์คเชียร์อย่างดีแล้วล่ะก็ พวกมันจะเป็นสัตว์เลี้ยงของครอบครัวที่ดีได้เช่นกัน

          
 การเลี้ยงดูยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์

          การหมั่นแปรงขนให้ยอร์คกี้เป็นประจำทุกวัน ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ ส่วนการอาบน้ำอาจทำแค่ 1 ครั้งต่อเดือนก็เพียงพอ ก่อนอาบน้ำควรใช้สำลีอุดหูให้เรียบร้อยและล้างแชมพูให้สะอาด โดยทำความสะอาดศีรษะกับใบหน้าเป็นส่วนสุดท้าย ก่อนจะเป่าขนให้แห้งด้วยความร้อนที่พอเหมาะ ส่วนเรื่องอาหารการกินของสุนัขยอร์คกี้ ควรเป็นอาหารเม็ดจะดีที่สุด เพราะมีความสะดวกในการเก็บรักษา และมีสัดส่วนสารอาหารที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งนี้ อาจผสมอาหารเปียกลงไปในอาหารเม็ดเพื่อเพิ่มความน่ากินเป็นบางครั้ง


 5. บีเกิล (Beagle)

          สายพันธุ์สุนัขที่มีมานานกว่า 2,000 ปี โดยมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศอังกฤษ จุดประสงค์เดิมถูกพัฒนาสายพันธุ์เพื่อใช้ในการกีฬาล่าสัตว์ และเนื่องจากบีเกิลเป็นสุนัขที่มีประสาทในการดมกลิ่นเป็นเลิศ จึงถูกนำมาฝึกให้เป็นสุนัขตำรวจ คอยตรวจสอบสิ่งของผิดกฎหมาย อย่างเช่น ยาเสพติด วัตถุระเบิด และอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นที่นิยมให้หมู่คนเลี้ยงสุนัขไปพร้อม ๆ กันด้วย

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของบีเกิล

          จัดอยู่ในสุนัขกลุ่มฮาวน์ (Hound) หรือสุนัขล่าเนื้อ ส่วนสูงอยู่ที่ 33-38 นิ้ว และมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 8-13 กิโลกรัม ลักษณะรูปร่างของบีเกิลมีขนาดลำตัวยาวกว่าความสูงเล็กน้อย หูปรก สีขนมีทั้งสีขาว ดำ และแทน โดยสีที่ผสมกันทุกสีจะเป็นที่ยอมรับมากที่สุด

          อุปนิสัยส่วนตัวของเจ้าบีเกิลก็น่ารักทีเดียว นอกจากจะสุภาพ กระฉับกระเฉง ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ แล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม แถมมีพลังเล่นล้นเหลือไว้เป็นเพื่อนเล่นให้เจ้าของได้คลายเหงาอีกด้วย แต่บีเกิลมีข้อเสียนิดหน่อยตรงที่ค่อนข้างเชื่อคนง่าย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับตำแหน่งสุนัขเฝ้าบ้านเท่าไหร่นัก

          
 การเลี้ยงดูบีเกิล

          สุนัขพันธุ์นี้ต้องอยู่ในบริเวณที่มีรั้วรอบขอบชิด เนื่องจากเป็นสุนัขที่ไม่มีสัญชาตญาณในการระวังภัยบนท้องถนนมากนัก และมักมีความเข้าใจอย่างผิด ๆ ว่า รถทุกคันจะหยุดรอให้พวกมันไปก่อนเสมอ นอกจากนี้จุดประสงค์ดั้งเดิมที่พวกมันถูกพัฒนาขึ้นมา ก็เพื่อเป็นสุนัขสำหรับล่าสัตว์ ทำให้พวกมันมีพลังงานในตัวมาก และชื่นชอบการออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเจ้าของควรพาไปออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

          หากต้องการให้บีเกิลมีสุขภาพแข็งแรง เติบโตสมวัย ก็ต้องใส่ใจเรื่องนี้ให้มาก โดยการเลือกประเภทอาหารให้เหมาะสมกับวัย พร้อมทั้งหมั่นแปรงขนทุก ๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไป เท่านี้ขนของมันก็จะสลวยเงางามอย่างที่ต้องการแล้ว


 6. ปั๊ก (Pug)

           สุนัขอีกสายพันธุ์ที่มีถิ่นกำเนิดในแถบประเทศจีนเมื่อ 400 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งสมัยนั้นนิยมเลี้ยงไว้ในวัดจีน ก่อนจะถูกนำไปเลี้ยงยังสถานที่ต่าง ๆ จนได้รับความนิยมไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย เนื่องจากหน้าตากวน ๆ บวกกับรูปร่างอ้วนกลม และความร่าเริง ขี้เล่นของเจ้าปั๊ก จึงทำให้ถูกใจคนรักสุนัขเป็นอย่างมาก

            ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของปั๊ก

           ปั๊ก เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก มีขนาดร่างกายเล็กปานกลางเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ตัวตันมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ส่วนใบหน้านั้นสั้นและย่น ตาโปนแลดูใจดี ใบหูพับตกลงด้านข้าง บนลำตัวปกคลุมด้วยขนสั้นเกรียนแต่นุ่มคล้ายกำมะหยี่ หางมีลักษณะบิดเป็นเกลียวชี้ขึ้นหรือม้วนจนเป็นวงติดกับบั้นเอว ถ้าหากหางม้วนได้ถึงสองตลบจัดว่าเป็นลักษณะที่สวยสมบูรณ์ที่สุด แต่พวกมันจะหายใจและกรนเสียงดัง

          สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่นิยมเลี้ยงกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีนิสัยน่ารัก ถึงหน้าตาของมันจะยับย่นเหมือนกำลังคิดมากไปสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วจะหลงใหลความอ่อนโยนของมันโดยไม่รู้ตัว ข้อควรระวังในการเลี้ยง คือ ปั๊ก ทนสภาพอากาศที่ร้อนมากไม่ค่อยได้ อาจถึงขั้นเป็นลมแดดเลยทีเดียว แต่ถ้าอยู่ในอากาศเย็น ก็ควรให้อยู่ในที่อุ่น ๆ หรือหาเสื้อมาสวมใส่เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นหวัด

          
 การเลี้ยงดูปั๊ก

          ถึงแม้จะเป็นสุนัขขนสั้นที่ไม่ต้องตกแต่งหรือเสริมสวยมากนัก แต่ก็ต้องดูแลรักษาความสะอาด พร้อมกับพาพวกมันไปเดินเล่นหรือออกกำลังกายอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้กลายเป็นโรคอ้วนหรือเฉื่อยชามากจนเกินไป และเนื่องจากหน้าตาที่บูดบึ้งจึงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บที่ดวงตาได้ง่าย หากปั๊กเริ่มขยี้ตาบ่อย กะพริบตาถี่ ตาเปลี่ยนสี หรือมีน้ำตามากเกินไป ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที นอกจากนี้ พวกมันยังมีปัญหาเรื่องระบบทางเดินหายใจอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงด้วย


 7. บูลด็อก (Bulldog)

          สุนัขนักสู้ที่มีมานานกว่า 700 ปี แถมยังขึ้นชื่อในเรื่องความดุร้ายมากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นก็มีคนที่หลงรักเจ้าสุนัขหน้าบึ้งแบบนี้อยู่ไม่น้อย ว่ากันว่าพวกมันมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ โดยสมัยก่อนพวกมันถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้ต่อสู้กับวัว ซึ่งเป็นเกมกีฬายอดนิยมของคนอังกฤษในสมัยนั้น แต่หลังจากเกมกีฬาชนิดนี้หมดความนิยมลง กลุ่มคนรักบูลด็อกจึงหันมาเลี้ยงพวกมันเป็นสัตว์เลี้ยง จนกระทั่งกลายมาเป็นสุนัขยอดนิยมของคนทั่วโลกในปัจจุบัน

           ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของบูลด็อก

          สุนัขสายพันธุ์บูลด็อก นอกจากจะมีรูปร่างบึกบึน ตัวหนา กล้ามเนื้อแข็งแรง พวกมันยังมีช่วงไหล่กว้างกว่าสะโพก ศีรษะใหญ่กว้าง หน้าสั้น บริเวณหน้าผากมีรอยย่นลึก และหางสั้นขดแน่นกับส่วนหลัง ส่วนอุปนิสัยและพฤติกรรมจัดว่าเป็นสุนัขที่มีความอดทนสูง และมีภาวะทางอารมณ์มั่นคงเสมอต้นเสมอปลายมากทีเดียว นอกจากนี้ภายใต้ใบหน้าอันเคร่งขรึมยังเต็มไปด้วยความตั้งใจแน่วแน่ กล้าหาญ และเด็ดเดี่ยวมากเลยทีเดียว

            การเลี้ยงดูบูลด็อก

           อาหารที่ให้บูลด็อกควรเป็นอาหารเม็ดสลับกับเนื้อสัตว์ปรุงสุกบ้าง แต่ไม่ควรปรุงแต่งด้วยรสเค็ม เพราะการให้อาหารเค็มหรือให้อาหารเม็ดตลอดเวลา จะส่งผลในระยะยาว เช่น ขนร่วง หรือมีอาการคัน เป็นต้น นอกจากนี้ควรให้อาหารเสริมแคลเซียมบ้างเป็นครั้งคราว ตามปริมาณที่ร่างกายต้องการ ส่วนการทำความสะอาดแค่อาบน้ำอาทิตย์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้ว และเนื่องจากเป็นสุนัขที่แพ้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงบริเวณมีแมลง เช่น ยุง มด และสัตว์มีพิษ  


 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 8. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)

           ความเป็นมาของไซบีเรียน ฮัสกี้ ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน เพราะเดิมเป็นสุนัขของชนเผ่าพื้นเมืองชัคชิ ในตอนนั้นพวกเขาพยายามพัฒนาสายพันธุ์เพื่อให้ได้สุนัขที่สามารถนำมาใช้งานได้ ทั้งการล่าสัตว์ หาอาหาร เฝ้ายาม และลากเลื่อนบนหิมะ ซึ่งความเก่งกาจของสุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ เลื่องลือไปไกล จนได้ชื่อว่าเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ได้รับความนิยมสูง

           
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของไซบีเรียน ฮัสกี้

           ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอายุประมาณ 12-16 ปี ลำตัวปกคลุมด้วยขนหนากว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น สีขนส่วนใหญ่บริเวณเท้า ขา ท้อง รอบดวงตาจะเป็นสีขาว ดวงตามีสีฟ้า น้ำตาลเข้ม เขียว และน้ำตาลอ่อน บางตัวอาจมี 2 สีรวมกัน ความสูงเฉลี่ยอยู่ 50-60 เซนติเมตร น้ำหนักราว 15-28 กิโลกรัม

           สุนัขไซบีเรียน ฮัสกี้ มีอุปนิสัยเป็นมิตร ขี้เล่น และเข้ากับคนได้ง่ายจึงทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับทุกคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี โดยส่วนใหญ่แล้วไซบีเรียนเพศผู้มักต้องการความสนใจ และชอบอยู่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากกว่าเพศเมียแต่ถึงแม้จะเป็นสุนัขใจดี ก็ไม่ควรปล่อยให้เล่นกับเด็กตามลำพัง เนื่องจากทั้งสุนัขและเด็กมักไม่รู้จักออมแรงในการเล่น จนอาจพลาดพลั้ง ทำให้เกิดการบาดเจ็บได้

           
 การเลี้ยงดูไซบีเรียน ฮัสกี้

           การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญมากของ ไซบีเรียน ฮัสกี้ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยกระตือรือร้น และชอบสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งการทำให้ไซบีเรียน ฮัสกี้ มีความสุข ยังช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการกินอาหารยากอีกด้วย และถึงแม้จะเป็นสุนัขที่มีขนหนาก็ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย แต่หลังการอาบน้ำควรเป่าขนให้แห้งสนิท เพื่อป้องกันโรคผิวหนัง


 9. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)

          นาทีไม่มีใครที่ไม่รู้จักโกลเด้น รีทรีฟเวอร์อย่างแน่นอน เพราะเรามักจะเห็นสุนัขสายพันธุ์นี้โลดแล่นอยู่ในโฆษณาหรือภาพยนตร์บ่อย ๆ โดยสุนัขใจดีตัวนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศอังกฤษและสกอตแลนด์ เริ่มแรกเดิมทีถูกเลี้ยงเอาไว้เพื่อใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ของนายพราน ก่อนที่จะกลายเป็นสุนัขตำรวจและสุนัขบ้านในเวลาต่อมา

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

          โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขในกลุ่มกีฬา (Sporting Group) ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้งานในกีฬาล่าสัตว์ขนาดกลาง มีอายุเฉลี่ย 12–14 ปี ส่วนสูงราว ๆ 51-60 เซนติเมตร หนักประมาณ 22-26 กิโลกรัม มีสีหลายระดับสี มักจะเป็นสีออกครีมถึงสีเหลืองทองจนถึงกึ่งเข้มแดงมะฮอกกานี ขนแน่นหยักเป็นลอนเล็กน้อย โครงสร้างลำตัวสั้นกระชับได้สัดส่วน

           นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า อุปนิสัยของ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ น่ารักสุด ๆ ไปเลย เพราะนอกจากจะมีเสน่ห์ ขี้เล่น ช่างประจบเอาใจเสียสละ และรักเจ้าของ พวกมันยังเป็นสุนัขที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ชอบอยู่กับคน แถมยังฝึกฝนง่ายอีกด้วย แต่สิ่งที่ควรระวังอย่างหนึ่ง คือ เจ้าของไม่ควรปล่อยให้สุนัขมีอิสระมากจนเกินไป และควรทำรั้วล้อมรอบบริเวณบ้านให้ดี มิเช่นนั้นอาจต้องตามหากันจนเหนื่อย เนื่องจากโกลเด้น รีทรีฟเวอร์  เป็นสุนัขที่ชอบเที่ยวและชอบผจญภัยนั่นเอง

          
 การเลี้ยงดูโกลเด้น รีทรีฟเวอร์

          เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขนร่วงมาก จำเป็นจะต้องแปรงและหวีขนให้มันสัปดาห์ละหลาย ๆ ครั้ง นอกจากนี้พวกมันจะมีความสุขมาก หากเจ้าของพาไปวิ่งเล่นในสนามโล่ง ๆ หรือพาไปว่ายน้ำบ้าง ส่วนเรื่องอาหารที่ โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ขนาดโตเต็มวัยต้องการ ควรเป็นอาหารชั้นดี โดยให้เพียงวันละ 1 ครั้ง ในปริมาณที่เพียงพอ แต่ในระหว่างวันอาจให้บิสกิตเสริมได้วันละ 2 ครั้ง

        อ่านบทความโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ ได้ที่นี่ 


  10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10 อันดับ สุนัขยอดฮิตของคนไทย

 10. ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)

          สุนัขจากคาบสมุทร ลาบราดอร์ ประเทศแคนาดา เดิมทีชาวประมงจะเลี้ยงไว้ใช้เก็บเหยื่อ จำพวกปลาที่หลุดออกจากเบ็ดหรือแห หรือคาบเป็ดป่าที่โดนยิงตกลงไปบนน้ำ ก่อนที่จะนำเข้ามายังประเทศอังกฤษและถูกพัฒนาสายพันธุ์ในภายหลัง พร้อมกับนำไปใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากการล่าสัตว์ อาทิ ใช้ในการค้นหายาเสพติด วัตถุระเบิด และช่วยเหลือคนตาบอด เป็นต้น

          
 ลักษณะทั่วไปและพฤติกรรมของลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์

          ลาบราดอร์ จะมีขนสองชั้น ชั้นนอกสั้น เหยียดตรง และแน่น ขนชั้นในนุ่มและช่วยปกป้องจากสภาพภูมิอากาศที่เลวร้ายได้ดี สีขนเป็นสีดำ สีเหลือง หรือสีช็อกโกแลต บางครั้งอาจมีจุดขาวบริเวณหน้าอก หางของ ลาบราดอร์ ดูคล้ายหางของตัวนาก โคนหางจะหนาและเรียวลงจนถึงปลายหาง

          ลาบราดอร์ เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์และน่าเลี้ยงที่สุดพันธุ์หนึ่ง เนื่องจากฝึกง่าย พวกมันมักตื่นตัว กระฉับกระเฉง ช่างประจบ และสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นมิตรกับคน รวมทั้งสัตว์อื่น ๆ นอกจากจุดเด่นเรื่องความฉลาดแล้ว ลาบราดอร์ยังมีจมูกไวเป็นเลิศ พวกมันจึงถูกฝึกใช้ในงานข้าราชการ ดังภาพที่เราเห็นเป็นสุนัขตำรวจหรือสุนัขกู้ภัย เป็นต้น

           การเลี้ยงดูลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์


          เจ้าของควรแปรงขนสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง พร้อมกับนำลาบราดอร์ไปวิ่งเล่นอย่างน้อยวันละ 30 นาที และหากมีเวลาก็ควรให้ได้ลงไปว่ายน้ำเก็บของบ้างเป็นครั้งคราว นอกจากนี้อย่าลืมพาพวกมันไปตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี เนื่องจากลาบราดอร์จะมีปัญหาเรื่องโรคกระดูกข้อสะโพกหลุดหรือโรคกระดูกอ่อน เป็นโรคประจำตัวของสุนัขพันธุ์นี้


แหล่งที่มา  http://pet.kapook.com/view72079.html