สายพันธุ์หมา

สายพันธุ์หมา

 ปัญหาเรื่องดวงตาของน้องหมาเรียกได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ใกล้ตัว และอาจเกิดปัญหาได้ในน้องหมาเกือบทุกสายพันธุ์ เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้วน้องหมามีดวงตาที่ใหญ่กว่าคน ง่ายต่อการรับฝุ่นละออง เชื้อโรค อุบัติเหตุ การขีดข่วน การกระทบกระเทือนจนเกิดการอักเสบได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ยังมีน้องหมาบางสายพันธุ์ที่มีโรคประจำสายพันธุ์เสี่ยงต่อปัญหาดวงตาที่ส่งผลร้ายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น มาดูกันค่ะว่ามีสายพันธุ์ไหนบ้าง เพื่อนๆ จะได้เตรียมรับมือ ดูแลดวงตาน้องหมาได้ทันท่วงทีค่ะ

 

 

 

1. ปั๊ก 

 

 

 

     หากเพื่อนๆ ได้อ่านบทความ 10 สายพันธุ์น้องหมาที่มีดวงตาสวยประทับใจมากที่สุด  จะเห็นว่าปั๊กเป็นหนึ่งในน้องหมาที่มีดวงตาพราวเสน่ห์ จนใครๆ เห็นก็ต้องใจอ่อน แต่ดวงตาที่กลมโตโปนออกมาจากเบ้าตา ประกอบกับใบหน้าที่สั้นจึงทำให้ปั๊กเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับดวงตา หากเดินชนโต๊ะ กระโดดตกจากเก้าอี้ หรือกัดกับน้องหมาตัวอื่น อาจเสี่ยงต่อการบาดเจ็บที่ดวงตา ไม่ว่าจะเป็น ลูกตาหลุดออกจากเบ้าตา กระจกตามีรอบขีดข่วน เกิดการอักเสบจากการถูกกระทบกระเทือน

     นอกจากนี้พวกเขายังเป็นสายพันธุ์ที่เสี่ยงต่อโรค Cherry Eye (เกิดจากต่อมน้ำตาที่อยู่ใต้หนังตาชั้นที่สามของน้องหมาเกิดการขยายใหญ่จนยื่โผล่ออกมาจากดวงตา), ภาวะตาแห้ง, มีขนตาแทงเข้าไปในเปลือกตา, ตาดำอักเสบ  เป็นต้น ดังนั้นจึงควรทำความสะอาด ตรวจเช็คความผิดปกติของดวงตาพวกเขาเป็นประจำ ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดอาการต่างๆ เรื้อรังจนเป็นอันตรายต่อกระจกตาและประสาทตา ทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในอนาคตค่ะ 

 

(อ่านเพิ่มเติมปัญหาดวงตาของปั๊กได้ที่บทความ ภาวะตาแห้ง โรคที่น้องหมาปั๊กมักเป็น ค่ะ)

 

 

 

2. โกลเดน รีทรีฟเวอร์ 

 

 

 

     ดวงตาสวย อ่อนโยน หวานใสของโกลเดน รีทรีฟเวอร์ ค่อนข้างเปราะบางมากๆ ติดเชื้อง่าย ระคายเคืองง่าย เวลาเราจะสัมผัสบริเวณดวงตาของพวกเขาควรจะระมัดระวังเป็นพิเศษ ไม่ให้นิ้ว หรือเล็บจิ้มตาพวกเขา และควรทำความสะอาดล้างมือให้เรียบร้อยก่อนจะสัมผัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อ อีกทั้งควรระมัดระวังการเล่นของน้องหมาที่อาจทำให้เกิดการระคายเคือง ขีดข่วนดวงตา โดนน้องหมาตัวอื่นตะปบ หรือ ดวงตาเปื้อนน้ำลายของน้องหมาตัวอื่นอีกด้วยค่ะ
 

     ในกรณีที่โกลเดน รีทรีฟเวอร์ถู เกา หรือพยายามจะเขี่ยอะไรออกจากดวงตา ผู้เลี้ยงไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะการระคายเคืองเพียงน้อยนิดอาจทำให้เกิดการติดเชื้อและสูญเสียการมองเห็นได้โดยไม่คาดคิดค่ะ ดังนั้น ถ้าดวงตาน้องหมามีอาการตาแฉะ ตาแดง มีขุ่นฟ้า เปลือกตาบวม ตาแพ้แสง ไวต่อแสง ควรตรวจเช็คดวงตาในทันที พาไปพบสัตวแพทย์ อย่าปล่อยไว้ให้เรื้อรังแพทย์เนื่องจาก โกลเดน รีทรีฟเวอร์มีโรคประจำสายพันธุ์เป็นต้อกระจก ต้อหิน ที่จะส่งผลให้สูญเสียการมองเห็น หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ซึ่งนอกจาก โกลเดน รีทรีฟเวอร์แล้ว สายพันธุ์ใกล้เคียงที่เสี่ยงต่อปัญหาดวงตาก็เช่น ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์, เยอรมัน เชฟเพิร์ด, โอล์ด อิงลิช ชีพด็อก เป็นต้นค่ะ 

 

 

3. ชิสุ 

 

 

      ถ้าพูดถึงปัญหาดวงตา ไม่มีน้องหมาชิสุก็คงไม่ได้ ชิสุเป็นน้องหมาที่ตอนเล็กๆ ดูหน้าตาจิ้มลิ้ม ดวงตาเล็กสีดำขลับสดใสน่ารัก แต่พอโตขึ้นจะเริ่มเห็นดวงตากลมโตมีคราบขี้ตาอยู่ตลอดเวลา ตาแห้ง  อักเสบ และมีฝ้าขุ่นๆ ได้ง่าย ดวงตาไม่สดใสเหมือนตอนเล็กๆ ขนตาที่ยาวก็มักแทงเข้าไปในเปลือกตาจนเกิดการอักเสบ   ดวงตามีการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุได้ง่าย จึงมีแผลที่กระจกตา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งมักนำไปสู่โรคต้อกระจก โรคกระจกตาอักเสบซึ่งเป็นโรคประจำสายพันธุ์ของพวกเขา จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด หยอดยาหยอดตาวันละหลายๆ ครั้ง เพื่อให้สามารถมองเห็นได้ดีขึ้น ดังนั้น ถ้าไม่มีเวลาจะดูแลพวกหลังจากรับการรักษา ผู้เลี้ยงจำเป็นต้องดูแลดวงตาพวกเขาอย่างสม่ำเสมอนะคะ  

     นอกจากน้องหมา พันธุ์ชิสุแล้ว โรคตา ต้อหิน ต้อกระจกยังสามารถเกิดขึ้นกับสายพันธุ์เล็กอื่นๆ อีก เช่น มอลทีส, ยอร์คเชีย เทอร์เรีย, ชเนาเซอร์, ชิวาวา, ปอมเมอเรเนียน  เป็นต้นค่ะ 

 

(อ่านเพิ่มเติมเรื่องปัญหาดวงตาน้องหมาชิสุ ได้อีกที่บทความ ความผิดปกติของขนตา...ปัญหาสำคัญของน้องหมาพันธุ์ชิ ค่ะ)

 

 

 

4. อเมริกัน ค็อกเกอร์ สเปเนียล 

 

 

 

     น้องหมาสายพันธุ์ค็อกเกอร์ สเปเนียล ไม่ว่าจะ อเมริกัน ค็อกเกอร์ สเปียลเนียล, อิงลิช ค็อกเกอร์ สเปเนียล และคาวาเลียร์ คิง ชาลส์ สแปเนียล ล้วนเสี่ยงปัญหาเกี่ยวกับดวงตา ซึ่งเป็นหนึ่งโรคประจำสายพันธุ์ของเหล่าค็อกเกอร์ สเปเนียลทั้งหลาย โดยโรคที่พบได้บ่อยก็เช่น โรค Cherry Eye, โรคต้อกระจก, โรคต้อหิน, ตาแห้ง, โรคเกี่ยวกับกระจกตา เป็นแผลที่กระจกตา, จอประสาทตาเสื่อม (เกิดขึ้นได้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ) ด้วยเหตุนี้เอง การดูแลเอาใจใส่ทำความสะอาดดวงตา ระมัดระวังเรื่องการเล่นไม่ให้รุนแรงจนกระทบกระเทือนหรือเกิดรอยขีดข่วนบนกระจกตาจะช่วยชะลอหรือป้องกันไม่ให้เกิดความผิดปกติของดวงตาได้เป็นอย่างดีค่ะ 

 

(อ่านเพิ่มเติม โรคเกี่ยวกับกระจกตาได้ที่บทความ 4 โรคกระจกตาที่พบได้บ่อยในน้องหมาค่ะ)

 

 

5. พุดเดิ้ล 

 

 

 

     ข่าวร้ายของผู้เลี้ยงพุดเดิ้ลก็คือ พวกเขามีโรคเกี่ยวกับดวงตาเป็นโรคประจำสายพันธุ์กว่า 20 โรค (เยอะมากค่ะ) แต่ข่าวดีปลอบใจเล็กน้อยก็คือ พุดเดิ้ลที่มีโอกาสเกิดโรคเกี่ยวกับดวงตาเกิดกับพุดเดิ้ลทอย (โดยเฉพาะ โรคจอประสาทตาเสื่อม)  ส่วนพุดเดิ้ลสแตนดาร์ดไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องดวงตา (คนเลี้ยงพุดเดิ้ลแสตนดาร์ดเบาใจได้ได้หน่อยหนึ่งนะคะ) ซึ่งโรคตาที่เกิดขึ้นนี้สามารถข้ามผ่านไปยังรุ่นลูกได้ หากเรารู้ว่าน้องหมาของเรามีปัญหาเรื่องตา ก็ไม่ควรนำไปผสมพันธุ์จนเกิดลูกๆ ที่ต้องสืบทอดยีนส์ปัญหาโรคตาสู่รุ่นต่อๆ ไป 

 

     สำหรับโรคดวงตาที่เสี่ยงมากเป็นพิเศษสำหรับเหล่าพุดเดิ้ลทั้งหลายก็จะมี โรคต้อกระจก โรคต้อหิน โรคจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งโรคหล่านี้จะเริ่มส่ออาการช่วงอายุประมาณ 3-5 ปี หากสามารถรักษาได้เร็วก็อาจไม่ส่งผลถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น ดังนั้นควรสังเกตความผิดปกติดวงตาน้องหมา เพื่อนำไปรักษาตั้งแต่เริ่มต้นเกิดอาการ หากน้องหมาเดินชนของบ่อยๆ เริ่มไม่ตอบสนองเวลาเราเดินไปหา หันผิดทิศทาง ก็ควรพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วนค่ะ 

 

 

6. อิงลิช บูลด็อก 

 

 

 

     บูลด็อกเป็นน้องหมาหน้าสั้น ตาโตโปน มองเห็นตาขาวมากกว่าน้องหมาพันธุ์อื่นๆ หนังตาล่างมักห้อยย้อยลงมา ซึ่งล้วนเป็นลักษณะดวงตาที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ การระคายเคืองจากฝุ่นละออง หรือ ได้รับรอยขีดข่วนบริเวณกระจกตาได้ง่าย อาจทำให้เกิดอาการตาแดง ตาแห้ง ตาขุ่นมัว เป็นต้นค่ะ
 

     นอกจากนี้ พวกเขายังมีโรคตาซึ่งเป็นโรคประจำสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น โรค Cherry eye, โรคหนังตาม้วนเข้าด้านใน, โรคต้อกระจก,ภาวะตาแห้ง ดังนั้น ถ้าน้องหมาเกาบริเวณตา มีขี้ตาเกอะกัง ตาแดง ให้รีบเช็ดทำความสะอาดและพาไปตรวจเชคกับสัตวแพทย์  เพราะอาจเกิดการติดเชื้อแต่นำไปสู่โรคตาได้ในอนาคตค่ะ
 

     ส่วนสายพันธุ์บูลด็อก และสายพันธุ์ใกล้เคียงกับบูลด็อกที่มีโอกาสเกิดโรคตา ก็เช่น อเมริกันบูลด็อก, โอลด์ อิงลิช บูลด็อก, เฟรนช์ บูลด็อก และ บอสตัน เทอร์เรีย เป็นต้นค่ะ 

 

 

 

7. ไซบีเรียน ฮัสกี้

 

 

     หนึ่งในน้องหมาที่ตาสวยมากที่สุดอย่างไซบีเรียน ฮัสกี้ ถ้าไม่ดูแลอย่างดีอาจสูญเสียการมองเห็นไปได้ง่ายๆ นะคะ เพราะพวกเขามีโรคประจำสายพันธุ์เป็นโรคตา ไม่ว่าจะเป็นโรคต้อกระจก โรคต้อหิน กระจกตาเสื่อม จอประสาทตาฝ่อ  อีกทั้งยังมีโอกาสเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมอีกด้วย(แต่อาจจะมีแนวโน้มเป็นได้น้อยกว่าค่ะ) ส่วนไซบีเรียน ฮัสกี้ที่มีตา 2 สีนั้น หากพวกเขาเป็นไซบีเรียนที่มีสีปกติตามสายพันธุ์ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะเกิดปัญหาดวงตามากกว่าปกตินะคะ แต่ถ้าเป็นไซบีเรียนสีลายหินอ่อน (Merel) อาจจะต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เพราะอาจจะเสี่ยงตาบอด สูญเสียการมองเห็น ตั้งแต่อายุยังน้อยค่ะ ดังนั้นควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพดวงตาเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน (ทั้งไซบีเรียนตาสีปกติด้วยค่ะ ถ้าเห็นมีฝ้าขาวขึ้นนั่นอาจหมายถึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะตาบอดสูงมาก อย่ารอเวลานะคะ) 

 

( อ่านเพิ่มเติมเรื่องโรคตาของ ไซเรียน ฮัสกี้ได้ที่บทความ 10 โรคเด่นในสุนัขพันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ ตอนที่ 2 และบทความ เคยสงสัยไหม ทำไมน้องหมา(บางตัว) ถึงมีตา 2 สี? ค่ะ)

 

 

8. พันธุ์บีเกิ้ล

 

 

 

     ขนาดดวงตาของบีเกิ้ลค่อนข้างโตจึงมีโอกาสรับฝุ่นละออง และ การระคายเคืองจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ ได้ง่าย ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ความสวยของดวงตาบีเกิลอาจจะอยู่กับเราได้ไม่ได้ถ้าไม่ดูแลเป็นอย่างดี  อีกทั้งพวกเขามีโรคตาเป็นหนึ่งในโรคประจำสายพันธุ์ ทั้งโรค Cherry Eye, โรคต้อกระจก, โรคต้อหิน, มีขนตาขึ้นผิดที่ แทงเข้าไปในเปลือกตาจนทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ และมีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม การถ้าไม่ทำการรักษาก็อาจะจะส่งผลให้ตาบอดได้ค่ะ จึงจำเป็นต้องคอยตรวจดูความผิดปกติของดวงตา หากน้องหมา ตาแดง แห้ง ขุ่น หรือ เกา ถูไถดวงตากับพื้นควรพาไปพาไปพบสัตวแพทย์โดยด่วน ถ้าปล่อยไว้นานเพราะอาจจะทำให้สูญเสียการมองเห็นได้นะคะ

 

 

 

9. เซนต์เบอร์นาร์ด

 

 

 

     เซนต์เบอรนาร์ดไม่ได้มีดวงตาที่ใหญ่ตามากนักก็จริง แต่หนังตาห้อยตกทั้งบนและล่าง อาจเกิดการสะสมฝุ่นละออง เล็บข่วนเกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ นอกจากนี้ พวกเขายังมีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตา คือ โรค Cherry Eye ,โรคหนังเข้า, โรคหนังตาม้วนออก (สายพันธุ์มาสทีฟฟ์ และพันธุ์ใหญ่อีกหลายพันธุ์ที่มีลักษณะเป็นน้องหมาภูเขาก็มีเสี่ยงเกิดปัญหาดวงตาได้เช่นกันค่ะ)  ซึ่งต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้นค่ะ เพราะเป็นโรคที่เกิดจากโครงสร้างของดวงตา ยากที่จะป้องกัน ดังนั้น หากเกิดความผิดปกติควรพาไปหาสัตวแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ นะคะ และอย่าลืมดูแลทำความสุขภาพดวงตาพวกเขาให้ดี เพื่อจะได้ไม่มีโรคตาอื่นๆ มาย่างกรายให้เจ็บป่วยค่ะ  

 

10. เชา เชา 

 

 

 

     เห็นเชา เชา เป็นน้องหมาจีนตาตี่ๆ ใช่ว่าจะไม่มีปัญหาดวงตานะคะ เพราะยิ่งดวงตาเล็กก็จะมีปัญหาเรื่อง เป็นขนตาที่งอกออกมาผิดตำแน่ง ซ้อนกันสองแถว, โรคหนังตาม้วนเข้า, โรคหนังตาม้วนออก,โรคต้อหิน,โรคต้อกระจก, รวมไปถึงโรคและความผิดต่างๆ เกี่ยวกับจอประสาทตา และ กระจกตาอีกด้วย ไม่น้อยเลยใช่ไหมคะ ดังนั้น ผู้เลี้ยงควรดูแลทำความสะอาดวงตาของพวกเขาเป็นประจำทุกวัน หากพบความผิดปกติให้พาไปพบสัตวแพทย์ ไม่ควรซื้อยามารักษาเองโดยเด็ดขาดนะคะ (น้องหมาพันธุ์ชาเป่ย ก็มีโอกาสเกิดปัญหาดวงตาได้เช่นเดียวกับเชา เชา นะคะ ต้องระมัดระวังเป็นอย่างดี)

 

 

 

     การที่น้องหมามีโรคประจำสายพันธุ์เกี่ยวกับดวงตาไม่หมายความว่าน้องหมาทุกตัวแต่สายพันธุ์ที่พริกบอกไปจะต้องมีปัญหาดวงตาทุกตัวนะคะ เพียงแต่พวกเขามีความเสี่ยงหรือมีแนวโน้มที่จะเกิดได้หากไม่ได้รับการดูแลที่ถูกวิธีอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น ถ้าเพื่อนๆ ต้องการให้ดวงตาน้องหมาสวยใส สะอาดสะอ้าน มองเห็นเราไปนานๆ ควรทำความสะอาด และคอยสังเกตความผิดปกติดวงตาของน้องหมาเพื่อรับการรักษาจากสัตวแพทย์ได้ทันการ โดยเพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับลักษณะอาการของโรคตาและ วิธีการทำความสะอาดดวงตาน้องหมาได้ที่บทความ 6 อาการ ที่บ่งบอกว่า น้องหมา(กำลัง)ป่วยด้วยโรคตา และบทความ เจาะลึกวิธีทำความสะอาดดวงตาสุนัขที่ถูกต้อง แล้วอย่าลืมนำเอาไปใช้ดูแลน้องหมากันนะคะ

http://www.dogilike.com/