ถึงจะชื่อว่าเป็นสายพันธุ์สฟิงก์ แต่เจ้าเหมียวพันธุ์นี้ก็ไม่ได้มีที่มาจากอียิปต์แต่อย่างใด ถิ่นกำเนิดของแมวพันธุ์สฟิงก์นั้นมาจากโตรอนโต ประเทศแคนาดาต่างหาก โดยได้รับการเปิดตัวต่อโลกเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1966 จากความสำเร็จในการให้กำเนิดแมวด้วยวิธีคัดเลือกสายพันธุ์จนเหมียวไร้ขนออกมา แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ใช่ว่าแมวสฟิงก์จะไร้ขนโดยสิ้นเชิง ที่จริงมันมีขนบาง ๆ เพียงแต่ว่าสีขนกับสีผิวของมันกลมกลืนกันเป็นอย่างดีจนแทบมองไม่ออกว่ามันมีขนนั่นเอง ซึ่งการมีขนเพียงบาง ๆ ปกคลุมร่างกายเลยส่งผลให้เจ้าสฟิงก์เป็นแมวขี้หนาวอีกด้วยล่ะ
2. พันธุ์มินสกิน (Minskin)แมวมินสกินก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ถือกำเนิดจากวิธีการคัดเลือกสายพันธุ์ เจ้ามินสกินตัวแรกถือกำเนิดขึ้นบนโลกเมื่อปี 1998 ที่บอสตัน สหรัฐฯ และได้รับการขนานนามว่าเป็นเจ้าเหมียวที่น่าเกลียดน่าชังที่สุดแต่นั้นมา เพราะนอกจากผิวหนังที่บางย่นดูเกือบจะไร้ขนแล้ว ขาของมันยังสั้นประหนึ่งแมวแคระอีกต่างหาก ถือเป็นส่วนผสมของแมวสฟิงก์และแมวแคระไว้ในตัวเดียวกันจริง ๆ
3. พันธุ์เดวอนเร็กซ์ (Devon Rex) แมวพันธุ์เดวอนเร็กซ์มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศอังกฤษ มีจุดเด่นคือขนมีลักษณะเฉพาะที่สั้นและหยิกนิด ๆ ดูแล้วไม่ค่อยนุ่มนิ่มเท่าไร แต่ถ้ามองข้ามเรื่องขนไม่ละมุนมือไป ก็บอกได้เลยว่าเจ้าเดวอนเร็กซ์นั้นฉลาดมาก ๆ ถึงขนาดมีคนเรียกว่ามันเป็น "ลิงในร่างแมว" เลยทีเดียว เพราะมันทั้งซุกซนและยังมีทักษะในการเรียนรู้ที่เป็นเลิศด้วยนั่นเอง
4. พันธุ์คอร์นิชเร็กซ์ (Cornish Rex)เจ้าเหมียวคอร์นิชเร็กซ์ เป็นญาติใกล้ชิดกับเดวอนเร็กซ์ทีเดียว มันมีถิ่นกำเนิดจากแคว้นคอร์นวอลล์ของอังกฤษ ลักษณะโดดเด่นของเจ้าคอร์นิชเร็กซ์ คือผิวย่น ๆ และขนสั้นกุดเป็นหย่อม ๆ จนบางตัวเกือบดูยับเยินแทบจะเป็นแมวจรจัดอยู่แล้วเชียว แต่นิสัยของเจ้าเหมียวร่าเริง ขี้เล่น อยากรู้อยากเห็นไปหมด จนมีคนยกเทียบว่ามันคือ "เกรย์ฮาวด์ในหมู่แมว" ซึ่งถือเป็นเสน่ห์หลักของมันเลยล่ะ แม้ว่าจะขัดกับหน้าตาอยู่นิด ๆ ก็เถอะ ^^"
5. พันธุ์ศุภลักษณ์ (Suphalak หรือ Burmese cat)แมวศุภลักษณ์ของไทยเราก็ติดโผแมวหน้าตาน่าชังกับเขาด้วยเหมือนกัน ซึ่งทางเว็บไซต์อธิบายไว้ว่า เพราะมันเป็นแมวที่น่าชังคนไทยจึงตั้งแก้เคล็ดชื่อให้ตรงข้ามว่า "ศุภลักษณ์" อันแปลว่าลักษณะดีนั่นเอง (ดูเหตุผลเขาสิ) โดยแมวศุภลักษณ์นั้นมีลักษณะเด่นที่มีขนสั้นเรียบสีดูตุ่น ๆ น้ำตาลอมเหลือง นอกจากนี้ก็ค่อนข้างเป็นแมวที่ติดเจ้าของมากกว่าแมวทั่วไปด้วย
แหล่งที่มา http://pet.kapook.com/view113649.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น